ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

ของใหม่ๆ Kindle Touch และ Kindle Fire จาก Amazon

Amazon เปิดตัว Kindle รุ่นใหม่แล้วครับ เปิดหลายรุ่นเลย มีทั้งจอแบบ e-ink อย่างเดิม และตัวใหม่ Tablet แบบ LCD เลยครับ

สำหรับ Model ใหม่ของ Kindle ที่ออกมาใหม่นั้นมี

- Kindle จอแบบ e-ink เช่นเดียวกับ kindle รุ่นก่อนๆครับ ตัวนี้เป็นแบบไม่มี keyboard จะใช้ปุ่มควบคุม 5 ทิศทางแบบพวกมือถือต่างๆครับ ตัวนี้ราคาแค่ 79$ และ 109$ ครับ (79$ เป็นแบบมีการแสดงโฆษณาครับ ถ้า 109$ เป็นแบบปกติ) ถูกมากๆ spec และรายละเอียดดูได้ที่นี่เลยครับ ---> Kindle, Wi-Fi, 6" E Ink Display

- Kindle Touch จะเป็นจอแบบ e-ink เช่นเดียวกับ kindle รุ่นก่อนๆครับ และที่พิเศษเพิ่มเติมคือหน้าจอเป็นแบบ Multi Touch ด้วยครับ โดยที่ราคาเริ่มตินของ Kindle Touch แค่ 99$ เองครับ น่าสนใจมากๆครับ ข้อมูลและ Spec ต่างๆ ดูได้จากที่นี่เลยครับ ---> Kindle Touch, Wi-Fi, 6" E Ink Display

- Kindle Fire ตัวนี้จะเป็น Tablet จอ LCD สีสันสดสวยครับ ใช้ดูหนังฟังเพลง เล่นเกมส์ และอ่านหนังสือได้เหมือน tablet ยี่ห้ออื่นๆครับ สามารถดูรายละเอียดได้จากหน้าเพจของ Amazon เลยครับ ---> Kindle Fire

และ Amazon เองก็ยังคงขาย Kindle 3 ตัวเดิมๆนะครับ โดยเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น Kindle Keyboard และก็ลดราคาลงมาต้อนรับน้องใหม่ด้วยครับ ใครยังสนใจตัวเดิมๆในราคาถูกก็ลองดูได้เลยครับ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 99$ ครับ Kindle Keyboard, Wi-Fi, 6" E Ink Display

ตอนนี้ Review ต่างๆยังไม่ออกมาเพราะเพิ่งเปิดตัวเมื่อวานนี้เองครับ (วันที่ 29 กย.) บอกได้คำเดียวครับว่า "อยากได้" Click here to Read more...

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

แกะกล่องหูฟัง Bose In Ear2 (Bose IE2)

หลังจากที่ซื้อหูฟัง Monster Harajuku Lovers ให้ภรรยาสุดที่รักแล้วผมเองก็เกิดอารมณ์อิจฉาแบบว่าอยากได้หูฟังใหม่บ้าง เพราะผมเองก็เริ่มเบื่อหูเดิมที่ผมใช้อยู่ครับ ฮ่าๆ บ้าบอแท้ๆ หูฟังของเดิมที่ใช้ก็คือ Apple In Ear 2 ก็มาคิดว่าถ้าซื้อใหม่ต้องเอาที่ดีกว่านี้และใช้ยาววววววว คงต้องเลือกที่ชอบ ที่อยากได้ ที่ถูกใจและถูกเงินด้วย Shure ก็อยากได้ UE ก็ชอบมากๆ Etymotic ก็มี ER6i แล้ว คิดๆก็มาลงตัวที่ Bose IE2 ครับ
เพราะผมอยากได้หูฟังที่เสียงดีใส่สบาย ใส่ทำงานได้และพอจะคุยหรือรับฟังคนอื่นได้เวลาใส่หูฟังครับ เมื่อคิดได้แล้วก่อนอื่นก็ต้องขออนุญาติแฟนสุดที่รักของผมก่อนว่าเค้าคิดเห็นเป็นประการใดบ้าง ก็สรุปได้ว่าเธอตามใจทุกอย่าง คราวนี้ก็ได้เวลาตามหาหูฟัง Bose กันแล้วครับ ผมก็ชวนคุณแฟนไปตามหาหูฟังที่ Showroom Bose ที่ CDC ก่อนเลยครับแต่ของหมด (สงสัยจะขายดี) ผมก็ตามหาจาก Showroom Bose หลายสาขาครับแต่ก็หมดทุกสาขาเลย ก็เลยลองถามไปที่ร้านหูฟัง Munkong Gadget ดูก็เจอครับว่ามีของเหลืออยู่ตัวนึงที่สาขาพันทิพย์ประตูน้ำ เมื่อได้พิกัดแล้วก็ไปเลยครับ แล้วก็ได้จ่ายเงินเสียตังค์สบายใจไป ฮ่าๆ สำหรับราคาที่ร้านมั่นคงเค้าจะขายถูกกว่าที่ Showroom Bose อยู่นิดหน่อยครับ ผมซื้อมาได้ในราคา 4,190 บาทครับ (ราคาที่ศูนย์ Bose 4,500 ครับ) และเมื่อได้ของมาก็รีบเอามาแกะแล้วก็ถ่ายรูปมาลง blog นี่แหล่ะครับ

รูปแรกขอโชว์ใบรับประกันจากอัศวโสภณก่อนเลยครับ ยืนยันกันก่อนว่าเอาของแท้มาแกะกล่องกันให้ดูครับ
เมื่อแกะกล่องกระดาษออกจะเจอแพ็คเกจพลาสิกของหูฟังครับ เค้าจะซีลแบบแน่นหนา แน่นปึ๊กมาจากโรงงานเลยครับ ต้องเอาคัทเตอร์หรือกรรไกรตัดพลาสติกออกครับ
พลิกดูใต้ล่างจะเจอ SN ครับซึ่งจะตรงกับในใบรับประกันนะครับ
นี่ครับถ่ายให้ดูแผงชัดๆซีลมาแน่นหนาเชียวครับ
แกะแผงออกจะเจอแผ่นพับแนะนำครับ มีภาษาไทยด้วยนะครับ
เปิดดูคำแนะนำกันก่อน
เอาของในแพ็คมาวางให้ดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
ในแพ็คจะมีจุกหูฟังทั้งหมด 3 คู่นะครับ ติดอยู่กับหูฟังเป็นขนาดกลาง และก็จะแถมขนาดเล็กและใหญ่มาต่างหากครับ โดยที่จุกหูฟังของ Bose IE2 (Bose เค้าเรียกจุกนี้ว่า StayHear Tips นะครับ) จะดูหน้าตาประหลาดๆหน่อยนะครับ แต่ขอบอกเลยนะครับว่าเป็นจุกหูฟังที่นิ่มมากกกกกกกก ใส่ได้สบายมากๆ โดยที่มีแง่งโค้งๆออกมาให้เราเอาไว้เกาะกับร่องของใบหูเราครับออกแบบมาได้อย่างสุดยอดครับ
มาดูหน้าตาหูฟังกันบ้าง ตัวหูฟังดูหรูหราสมกับเป็น Bose ครับโดยที่หน้าตายังคงคล้ายกับ IE ตัวแรกของ Bose ที่ดูเห็นความแตกต่างชัดๆก็ตรงจูกหูฟังนี่แหล่ะครับ ส่วนสายจะเป็นสีขาวสลับดำสวยงามครับ
แจ็คเป็นขนาด 3.5mm แบบตัว L เอียงๆครับ แปลกดีครับเคยเจอแต่แบบตัว L หรือตัว I แต่นี่เค้าจะออกแบบให้เอียงทำมุมกว้างครับ หลังจากการใช้แล้วผมชอบการออกแบของแจ็คแบบนี้นะครับใช้งานได้เหมาะสมกับเครื่อง player หลากหลายใส่เข้าดึงออกได้อย่างสะดวกครับ
ตรงจุดแยกสายมีสติ๊กเกอร์โฮโลแกรมด้วยครับ
พลิกให้ดูหูข้างขวาครับ
และข้างซ้าย
ขอทำการถอดจุกยางมาโชว์ให้ดูครับ
และนี่คือจุกยางอันแสนนิ่มใส่สบ๊่าย สบาย
คู่มือภาษาไทยครับ
และก็กระเป๋าหนังที่แถมมาครับ สวยหรูหรา หนังนิ่มมากครับ ใบใหญ่มากใส่ iPhone และหูฟังไว้ด้วยกันได้เลยครับ
ด้านในกระเป๋าบุผ้านุ่มๆครับ
รูปสดท้ายขอโชว์หูนิดหน่อยนะครับว่าใส่แล้วจะหล่ออย่างนี้ครับ ฮ่าๆๆๆ
ขอสรุปเล็กน้อยสำหรับหูฟังตัวนี้นะครับ คงไม่ได้รีวิวเสียงหรืออะไรนะครับเพราะรีวิวไม่เป็นครับ หูฟัง Bose IE2 นี้เป็นหูฟังที่ใส่ได้สบายมากๆ สามารถใส่ได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกอึดอัดเลยครับ และหูฟังตัวนี้ไม่ได้เป็น in ear เต็มรูปแบบนะครับแม้ชื่อเค้าจะเป็น in ear แต่ไม่ได้กั้นเสียงใดๆสักเท่าไรเสียงสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศภายนอกเข้ามาได้เต็มๆครับ ผมสามารถใส่หูฟังตัวนี้แล้วรับโทรศัพท์ที่ออฟฟิศได้โดยแค่หยุดเพลงแต่ไม่ต้องถอดหูนะครับ ฟังเสียงอีกฝั่งได้สบายๆชัดเจนเลยแหล่ะครับมันแทบไม่ได้กันเสียงเลยจริงๆ แต่ก็อาจจะกันเสียงได้ดีกว่าหูแบบ ear bud นิดหน่อยเท่านั้นเองครับ ถ้าใครอยากได้หูที่สามารถกันเสียงภายนอกได้ให้มองข้ามหูฟังตัวนี้ไปเลยนะครับเพราะมันกันเสียงแทบไม่ได้เลย แต่ถ้าคุณต้องการหูฟังใส่สบายเสียงดีๆ เหมือนฟังลำโพง Bose อยู่บ้านแล้วหล่ะก็หูฟังตัวนี้ให้คุณได้แน่นอนครับ

Click here to Read more...

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

Star Wars Blu-ray กำลังจะมาแล้วเหล่าสาวกเตรียมตัวหรือยัง

Blog วันนี้ผมแค่จะมาบอกว่า Star Wars ในรูปแบบ Blu-ray กำลังจะวางจำหน่ายแล้วครับ กำหนดวางจำหน่ายวันที่ 16 กันยายนนี้แล้วครับ มันช่างตื่นเต้นและเป็นอะไรที่เหล่าสาวก Star Wars เช่นผมรอคอยครับ รอมานานในที่สุดลุง Gorge ก็ปล่อยออกมาจนได้ ตื่นเต้นๆอยากได้ อยากดูมากๆแล้วครับ



โดยการออก Blu-ray ครั้งนี้ออกวางจำหน่าย 3 Set ครับ
Set แรกเป็น Complete Saga ครับ รวมทั้ง 6 Episode ใน set ทั้งหมดมี 9 แผ่นพร้อมแผ่นเบื้องหลังมากมาย


Set ที่ 2 เป็น Prequel Trilogy ครับ คือ Episode 1-3 เรื่องราวก่อนเกิดเกิดตำนานนั่นเองครับ ใน set มีด้วยกัน 3 แผ่น เฉพาะตัวหนังครับ

Set ที่ 3 เป็น Original Trilogy คือ Episode 4-6 Original Star Wars แห่งความทรงจำของแฟนๆครับ ใน set มีด้วยกัน 3 แผ่น เฉพาะตัวหนังครับ


ผมเองก็สั่ง Set Complete Saga จาก Amazon.com ไว้แล้วครับ ซื้อในไทยไม่ไหวแพงกว่ากันเท่าตัวเลยครับ ผมว่าเรื่องภาษาคงไม่ใช่ปัญหาหลัก ไม่ใช่เพราะผมเก่งนะแต่เพราะดู Star Wars หลายรอบแล้วครับดูจนจำได้ เนื้อเรื่องมันซึมซับเอาไว้หมดแล้ว ^^ แต่ก็ไม่แน่อาจจะมี Subtitle Thai มาใน Blu-ray นี้เลยเพราะว่าสำหรับการแบ่งโซน Blu-ray นั้นประเทศไทยของเราอยู่ Zone เดียวกับ US ครับ (ไม่เหมือนกับ DVD ที่อยู่คนละโซน) ดังนั้นแล้วรีบซื้อแล้วมาดูด้วยกันนะครับ




Click here to Read more...

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

แกะกล่องหูฟัง Monster Harajuku Lovers

พอดีผมเพิ่งซื้อหูฟังใหม่ให้คุณภรรยาสุดน่ารักของผมครับ วันนี้ก็เลยขอเอามาแกะกล่องให้ดูกันครับ หูฟังอันนี้คือ Monster รุ่น Harajuku Lovers หูฟังแบบ in ear ที่เสียงดีและสุดแสนจะน่ารัก ตัวนี้ครับ


หูฟังตัวนี้ผมซื้อจากร้าน .Life ที่ Central ลาดพร้าวครับ ที่ซื้อหูฟังตัวนี้เหตุเพราะความน่ารักนี่แหล่ะครับ และเมื่อซื้อมาแล้วก็ขออณุญาตเจ้าของหูฟัง (คุณแฟนผู้น่ารักของผม) นำมาถ่ายรูปให้ทุกๆท่านชมนะครับ

ตัวกล่องมีแม่เหล็กติดไว้เพื่อปิดฝากล่องอย่างหรูหราครับ และเมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบหูฟัง และคลิปหนีบหน้าสาวๆ Harajuku Girls ทั้ง 5 ครับ สามารถเปลี่ยนหน้าสาวๆได้ตามใจชอบเลยครับ และตัวสายของหูฟังจะเป็นแบบสายแบนตามแบบหูฟังรุ่นพี่ตระกูล Beat Dr. Dre อันโด่งดังครับ และข้อดีมากๆของสายแบบนี้คือตัวสายจะเป็นแบบสปริงหน่อยๆทำให้สายหูฟังไม่พันกันครับแม้คุณจะรวบๆสายม้วนๆสายเข้าก็จะคลี่สายออกได้โดยง่ายครับ

พลิกดูหลังกล่องมีรายละเอียดหูฟังและแจกแจงสิ่งของที่คุณจะได้เมื่อซื้อกล่องนี้ครับ ^^

เมื่อยกแผงหูฟังออกจะพบกระเป๋าสีขาวรูปทรงหัวใจ น่ารักๆ อย่างนี้ครับ

ด้านหลังของกระเป๋าครับ

ลองเปิดกระเป๋าดูครับ จะมีจุกยางซิลิโคนแถมมาให้อีกสองขนาดครับ คือขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ส่วนที่ติดมากับหูเลยคือขนาดกลางครับ

ภายในด้านซ้ายมีสายยางยืดไว้เก็บหูฟังครับ ส่วนด้านขวาเป็นช่องเล็กๆเอาไว้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้ครับ

หูฟังน่ารักไหมครับ สังเกตุตรงรูปหัวใจเล็กๆใต้คลิบสาว harajuku นะครับ เค้าจะมีบอกไว้ว่าข้างไหน L ข้างไหน R ครับ

ด้านข้างของหูฟังครับ

แจ็คขนาด 35mm ครับ มีโลโก้ Monster ชัดๆ

หัวแจ็คเป็นแบบตัว L ครับ

ในกล่องยังมีคลิปแขวนกระเป๋าแบบนี้ด้วยนะครับ

คู่มือครับ

คู่มือสีชมพูสดมากกกกก

ตรงกลางตรงจุดแยกสายซ้ายขวา มีพลาสติกลวดวายตารางแบบเดียวกับที่หูฟังพร้อมชื่อรุ่นของหูฟังครับ

อีกฝั่งเป็นโลโก้และชื่อ Monster ครับ

ขอส่งท้ายด้วยภาพนี้ครับ เวลาใช้ช่างเหมาะเจาะกับ iPod Nano gen6 มากมายเสียนี่กระไร ^^

ส่วนเรื่องเสียงนี่คงไม่กล้ารีวิวครับ เพราะไม่มีความสามารถขนาดนั้น แค่บอกได้ ณ ขณะนี้ที่ยังไม่ได้ burn เบสมาเป็นแบบชัดๆ แต่ไม่ได้บวมจนกลบเสียงย่านอื่นๆครับ เสียงร้องของนักร้องก็ชัดเจนใสๆเลยครับ

สรุปได้เลยนะครับว่า หูฟังตัวนี้เหมาะมากๆกับสาวๆน่ารักที่รักความสนุกของเสียงเพลงครับ เพราะไม่ว่าจะdesign หรือแนวเสียงของหูฟัง เมื่อนำไปใช้ยังไงก็สนุกสนานกับเสียงและสีสันความน่ารักครับ^^

Click here to Read more...