ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Review Kindle3 ตอน 2

กลับมาเขียน blog รีวิว kindle 3 กันต่อนะครับ จากตอนที่ 1 จะพูดถึงหน้าตา ส่วนประกอบต่างๆของ kindle 3 ตัวนี้ ตอนนี้ผมจะมาเล่าถึงการอ่านหนังสือ และฟังค์ชั่นบางอย่างของ Kindle 3 ครับ เผื่อว่ามีใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้อแล้วผ่านมาเจอ blog นี้จะได้เอาไว้เป็นข้อมูลพิจารณาเพิ่มเติมนะครับ

เรื่องแรกเลยก็คือเรื่องการอ่านหนังสือบน Kindle 3 ครับ

Kindle3 ตัวนี้ support ไฟล์ ebook และไฟล์ text หลายชนิดครับ ทั้ง ไฟล์จาก Microsoft Word (DOC, DOCX), PDF, HTML, TXT, RTF, JPEG, GIF, PNG, BMP, PRC และ MOBI ครับ แต่ตอนนี้ยังไม่ support epub ซึ่งกำลังเป็น format ebook ยอดนิยมครับ (iBook บน iPad ใช้ไฟล์ epub ครับ) แต่ก็ไม่ต้องกังวลครับเพราะมีฟรีซอฟแวร์ดีๆอย่าง Calibre ให้เราสามารถแปลงไฟล์ ebook ต่างๆลง kindle  ได้อย่างง่ายๆครับ (เอาไว้เดี๋ยวมาแนะนำการใช้ Calibre ตอนหลังแล้วกันนะครับ)

เราสามารถเอาหนังสือลง Kindle ได้อย่างง่ายๆได้หลายทางคือ
- ผ่านทางสาย USB แล้ว copy แล้ว copy ใส่เข้าไปใน kindle ตรงๆเลย เมื่อเราเสียบ kindle กับเครื่องคอม เราก็จะเห็น kindle เป็นอีก drive นึง ก็copy ลงไปใน Folder Document ใน kindel ได้เลย
- ผ่านทาง software เช่น Calibre ครับ จะสามารถ sync หรือ convert หรือ  copy ลง kindle ได้เลย
- ผ่าน email ของทาง Amazon คือหลังจากที่เรา register Kindle เราแล้วเราจะได้ email มาหนึ่งอัน (ชื่อคุณ@kindle.com)สำหรับการส่ง ebook หรือ document หรือไฟล์ text ต่างๆของเราเข้า kindle แล้วเราก็โหลดผ่าน wifi หรือ 3G (ถ้าเครื่องเป็นรุ่น 3G) ได้เลยครับ
- ซื้อหนังสือผ่านทาง Kindle store ของ Amazon

หลังจากที่เราโหลดหนังสือเข้าเครื่องเราแล้วเมื่อเราเปิดเครื่องจะเห็นรายการหนังสือของเราใน Kindle ครับ
และถ้าเรากดปุ่ม Select ก็จะเปิดหนังสือเราขึ้นมาครับ และอย่างที่ได้บอกไว้แล้วว่าการแสดงผลหนังสือหรือ ebookต่างๆ สวยงามสมบูรณ์คมชัดมากๆครับ
 และเราสามารถปรับการแสดงผลต่างๆ และขนาดตัวหนังสือได้ด้วย ปรับให้ตัวเล็กตัวใหญ่ได้ตามสายตาและความชอบของเราได้เลย โดยกดที่ปุ่ม Aa ที่อยู่ข้าง space bar
และยังมี pop-up dictionaryให้ด้วยนะครับ เวลาเราอ่านหนังสือก็ใช้ปุ่มทิศทางเลื่อน cursor ไปหน้าศัพท์ที่เราต้องการแปล ก็จะมีคำแปล (แบบอังกฤษ-อังกฤษ) แสดงให้เราครับ ทำให้เราสามารถอ่านหนังสือได้ง่ายขึ้นไม่ต้องละจากหนังสือไปเปิด dictionary ครับ
และยังมีฟังค์ชั่นสุดยอดอีกอย่างนึงด้วย คือการอ่านออกเสียงให้เราฟังครับ (Text-to-Speech) เมื่อเราเลือกฟังค์ชั่นนี้เครื่อง kindle จะอ่านหนังสือให้เราฟังครับ เสียงที่ออกมาชัดเจนและน่าทึ่งมากครับ ฟังได้ชัดเจน แถมยังอ่านเหมือนกับมีฝรั่งมาอ่านให้ฟังข้างๆเลยครับ (มีเสียงให้เลือกสองเสียงคือชายหนุ่มเสียงนุ่มหู หรือหญิงสาวเสียงใสๆครับ)
และฟังค์ชั่นที่สำคัญอีกอย่างที่เป็นตัวตัดสินใจของหลายๆคนคือการอ่าน  PDF ครับ ซึ่งเจ้า kindle 3 นี่สามารถอ่าน pdf ได้เลยครับ แต่จะมีปัญหาบ้างในเลือกของขนาดตัวหนังสือที่ไม่สามารถปรับขนาดได้ (ต้องใช้วิธีซูม ขยายขนาดการแสดงผลช่วย หรือ เปิดหนังสือในแนวนอนแทนครับ)

เอาตัวอย่างมาให้ดูกับ pdf ภาษาไทยครับ พอดีไฟล์นี้คนทำเค้าทำเป็นหน้าหนังสือมี background เลยเหลือขอบซ้ายขวาบนล่างเยอะเลย ผมแค่โหลดใส่เพื่อทดสอบการแสดงผลครับ ถ้าใครจำเป็นต้องใช้ pdf ไฟล์เยอะๆจริงๆ ผมแนะนำซื้อ Kindle DX จอ 9นิ้ว น่าจะเหมาะสมกว่านะครับ

และอีกหนึ่งสุดยอดของ kindle ที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อคือการอ่านการ์ตูนครับ (ผมเป็นพวกชอบอ่านการ์ตูนครับ อ่านตั้งแต่เด็กยันแก่และตั้งใจจะอ่านไปเรื่อยๆครับ) เราสามารถโหลดการ์ตูนที่เป็นไฟล์ jpg  เข้าไปไว้ใน folder picture แล้วเปิดอ่านได้เลยครับ 


 ภาพคมชัด (ขึ้นกับไฟล์ต้นฉบับนะครับ) ตัวหนังสืออ่านได้อย่างชัดเจน ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านกร์ตูนเล่มเลยครับ แต่ตัวหนังสืออาจตัวเล็กไปบ้างเพราะจอของ kindle3  แค่หกนิ้วครับ


เอามาให้ดูหลายรูปเลยว่าชัดเจน อ่านได้สบายตา ให้อารมณ์เหมืนอ่านการ์ตูนเล่มเพียงใด ส่วนวิธีเอาการ์ตูนเข้าไปใน kindle  เดี๋ยวผมจะมาเล่าภายหลังนะครับขอติดไว้ก่อน แต่รับรองว่าง่ายมากๆ มี software ช่วยครับ มันจะยากตรงหาการ์ตูนที่ชอบมาลงครับ ฮ่าๆ
ส่วนอีกฟังค์ชั่นหนึ่งของ kindle3 คือการเล่นเน็ตผ่าน browser ที่มีมาให้ครับ เราสามารถเล่นเน็ตผ่าน kindle3 ได้เลยครับ ผ่าน Wifi หรือ 3G (สำหรับรุ่น 3G ของผมแค่ Wifi ครับ) โดยที่ browser ตัวนี้ยังเป็นตัวทดสอบทดลอง Experimental นะครับ แต่ก็เล่นได้ดีเลยครับ และสามารถแสดงภาษาไทยได้สมบูรณ์ดีครับ (แต่คีย์ไทยไม่ได้นะครับ)


เอาหน้าจอ facebook มาโชว์ให้ดูกันนะครับ ตอนนี้จับภาพใหม่ไม่ได้เพราะที่ที่ผมอยู่ตอนนี้ไม่มี Wifi ครับ (ภาพนี้ถ่ายตั้งแต่วันแรกที่ได้เครื่องมาครับ) 
ข้อเสียอย่างนึงของการเล่นเน็ตบน kindle คือการ refresh ที่ช้านิดๆ (เพราะเป็นจอแบบ e-ink) และไม่สะดวกในการใช้ keypad ในการเลื่อนแทนเม้าส์ครับ ก็ประมาณว่าพอใช้แก้ขัดได้ เล่น FB Twitter ได้ครับ ถ้าจะเอามาเล่นเน็ตจริงจังผมว่า iPad หรือพวก tablets อื่นๆเหมาะกว่าครับ
 นี่ก็การแสดงผลหน้า blog ผมครับ

สำหรับรีวิวตอนที่สองนี้คงจะขอจบก่อนนะครับเพราะรู้สึกว่ายาวแล้ว เดี๋ยวคนอ่านจะเบื่อ ^^
แล้วเดี๋ยวผมจะมาเล่าและแนะนำ Calibre ซอฟแวร์คู่ใจคนอ่าน ebook แล้วก็วิธีเอาการ์ตูนไปอ่านบน Kindle ในตอนต่อๆไปนะครับ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น